Mini Load : ASRS
เหมาะสำหรับสินค้า ขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนักไม่ควรเกิน 50 kg
เหมาะกับ อาคารไม่สูง ไม่ควรเกิน 15 เมตร
🚀 เปลี่ยนคลังสินค้าธรรมดา ให้กลายเป็น “คลังอัจฉริยะ” ด้วย ASRS!
ลองจินตนาการดูว่า…
-
ถ้าคลังสินค้าของคุณ จัดเก็บได้มากขึ้น แต่ใช้พื้นที่น้อยลง
-
ถ้าคุณสามารถ หยิบสินค้าได้ในไม่กี่วินาที โดยไม่ต้องเดินหา
-
ถ้าคุณรู้ว่า ของชิ้นไหนอยู่ตรงไหนแบบ Real-Time ไม่ต้องเปิดแฟ้ม ไม่ต้องคาดเดา
-
และที่สำคัญ… ถ้าทั้งหมดนี้เกิดขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งแรงงานคนจำนวนมาก
ASRS หรือ คลังสินค้าอัตโนมัติ ต่างจาก ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ แต่ทำงานควบคู่กัน และ Integrate กันได้ ยิ่งทำให้บริษัทหรือองค์กรได้เปรียบคู่แข่งในอนาคต สามารถอัพเดต Real Time Monitoring หรือทำ Track and Trace
สามารถเชื่อม API หรือเชื่อมต่อกับ QR Code , Barcode, RFID ได้อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ Crane , 4 Way Shuttle Rack , 2 Way Shuttle Rack ,
Program WMS : Warehouse Management System เฉพาะ Program
- หมดปัญหาเหมาตู้ Container และโดนปรับล่าช้า (Load สินค้าเข้าตู้ช้า เพราะหาของไม่เจอ หรือของสูญหาย ไม่ทราบสาเหตุ เป็นต้น)
- ทำงานอย่างต่อเนื่อง
- รวดเร็ว
- แม่นยำ
- เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บสินค้า
- ลดการสูญหาย
- ลดความผิดพลาด

ติดตั้ง และซ่อม
1. ระบบอัตโนมัติคลังสินค้า 2. AS/RS (Automated Storage and Retrieval Systems) 3. โลจิสติกส์อัจฉริยะ 4. หุ่นยนต์ในคลังสินค้า 5. ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า (WMS) 6. โซลูชั่นหุ่นยนต์สำหรับโลจิสติกส์ 7. การจัดการห่วงโซ่อุปทาน 8. ระบบอัตโนมัติในโลจิสติกส์ 9. เทคโนโลยีคลังสินค้าอัจฉริยะ 10. การจัดการวัสดุและกระบวนการผลิต
ASRS ที่ดี ควรทำงาน ร่วมกับ WMS หรือ ระบบบริหารคลังสินค้าอัตโนมัติ
หน้าที่หลักของ WMS
1. รับสินค้า (Receiving)
บันทึกข้อมูลการรับสินค้าเข้า (เช่น หมายเลขใบสั่งซื้อ, หมายเลขล็อต, วันที่ผลิต/หมดอายุ)
ตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าและปริมาณ
สร้างบาร์โค้ด/QR Code สำหรับติดตามสินค้า
2. จัดเก็บสินค้า (Putaway)
แนะนำตำแหน่งจัดเก็บอัตโนมัติตามประเภทสินค้า, น้ำหนัก, หรือโซนที่เหมาะสม
ควบคุมพื้นที่จัดเก็บให้ใช้พื้นที่ได้สูงสุด
บันทึกตำแหน่งจัดเก็บในระบบแบบ Real-Time
3. ควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control)
แสดงสถานะสินค้าคงคลังแบบ Real-Time
รองรับการตรวจนับสินค้า (Cycle Count / Physical Count)
ป้องกันสินค้าขาดสต็อกหรือเกินความจำเป็น
ควบคุม FIFO / FEFO (First-In-First-Out, First-Expired-First-Out)
4. หยิบสินค้า (Picking)
สร้างคำสั่งหยิบสินค้าอัตโนมัติจากใบสั่งขาย
แนะนำเส้นทางหยิบสินค้าที่สั้นที่สุด
รองรับการใช้ Handheld, Tablet, หรือ Voice Picking
5. แพ็คและจัดส่งสินค้า (Packing & Shipping)
ตรวจสอบความถูกต้องก่อนบรรจุ
พิมพ์ฉลากกล่อง/Shipping Label
เชื่อมต่อกับระบบขนส่ง (TMS – Transport Management System)
อัปเดตสถานะการจัดส่งแบบ Real-Time
6. รายงานและวิเคราะห์ข้อมูล (Reporting & Analytics)
สรุปยอดสินค้าเข้า–ออก
วิเคราะห์อัตราการหมุนเวียนสินค้า (Inventory Turnover)
วิเคราะห์ประสิทธิภาพพนักงานหรือพื้นที่จัดเก็บ
เชื่อมต่อข้อมูลกับ ERP หรือระบบบัญชี